วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

วรรณกรรมท้องถิ่น เรื่อง ท้าวโสวัตร์

ภารกิจพิเศษ วิเคราะห์วรรณกรรมท้องถิ่น เรื่อง ท้าวโสวัตร์




บทที่ 1
สรุปเนื้อหาวรรณกรรม เรื่อง ท้าวโสวัตร์

          เมืองพรหมกฎมีพระยาพรหมทัตและนางจันทาเป็นผู้ปกครอง มีบุตรชื่อท้าวโสวัตร์ ตอนกำเนิดทรงมีพระขรรค์และมีม้าอาชาไนยบังเกิดมาพร้อมกัน ในวันเดียวกันยังประสูตินางประทุมมาลวะดีที่ลงมาเกิดในดอกบัวใกล้อาศรมของพระฤๅษีที่ป่าหิมพานต์ พระฤๅษีไปพบเข้าก็ทรงนำมาเลี้ยงเป็นธิดาจนเติบใหญ่  วันหนึ่งนางประทุมมาลวะดีเกิดอยากมีคู่ครอง เลยเก็บดอกไม้มาร้อยเป็นพวง เสี่ยงไปตามสายธารใกล้อาศรมทั้งอธิษฐานว่า หากใครเป็นคู่ของนางขอให้มาลัยนี้ลอยไปคล้องข้อมือผู้นั้นไว้ วันนั้นโสวัตร์กุมารลงสรงสนานในแม่น้ำ พวงมาลัยของนางประทุมมาลวะดีก็ลอยเข้าข้อมือของท้าวโสวัตร์ไว้ โหรหลวงจึงทำนายว่าหากพระองค์เสด็จไปทางทิศตะวันออกจะได้เจ้าของมาลัยเป็นคู่ครอง ท้าวโสวัตร์ด้วยความอยากเจอเจ้าของพวงมาลัยจึงลาพ่อกับแม่ออกตามหาเจ้าของพวงมาลัย
          ท้าวโสวัตร์ให้ทหารเตรียมม้าอาชาไนยคู่บารมี ครั้นเสด็จประทับม้าก็โผนขึ้นบนอากาศพาเหาะไปจนถึงอาศรมของพระฤๅษี ขณะนั้นพระฤๅษีไม่อยู่ ท้าวโสวัตร์ซุ่มดูอยู่พบนางประทุมมาลวะดีกำลังไกวชิงช้า ขับลำนำถึงมาลัยที่นางเสี่ยงไปตามสายน้ำ ท้าวโสวัตร์จึงแสดงตนว่าเป็นผู้ได้มาลัยเสี่ยงทายของนางและติดตามมาจนพบเจ้าของ ทั้งสองเมื่อเจอกันต่างก็เกิดวามรักซึ่งกันและกัน เมื่อพระฤๅษีกลับมาโสวัตร์ก็ขอนางประทุมมาลวะดีกับพระฤๅษีจึงมีการอภิเษกท้าวโสวัตร์กับนางประทุมมาลวะดีให้ครองคู่กัน
          เวลาล่วงไปจนนางประทุมวดีตั้งครรภ์อ่อนๆ ฝ่ายม้าอาชาไนยท่องเที่ยวไปตามลำพังจนถึงกรุงชนบทของท้าวจิตราสูรจึงถูกพญายักษ์เจ้าเมืองจับขังไว้ในกรงเหล็ก
วันหนึ่งท้าวโสวัตร์กับนางประทุมมาละวดีเที่ยวไปหาผลไม้ในป่า จึงได้พบพรานป่านายหนึ่งเที่ยวล่าสัตว์ เมื่อพรานป่าได้เห็นรูปนางประทุมมาละวดีเข้าก็อยากได้นางไปเป็นเมีย จึงใช้ธนูพิษยิงท้าวโสวัตร์จนตาน แล้วบังคับให้นางประทุมมาละวดีเดินทางไปกับตน เวลาล่วงไป ๑๕ วัน นางประทุมวดีทำอุบายให้พรานป่าวางใจแล้วใช้มีดทำร้ายจนพรานป่าถึงแก่ความตาย
         ฝ่ายพระฤๅษีก็คอยลูกทั้งสองอยู่จนค่ำ เห็นผิดสังเกตก็ออกตามหาจึงพบท้าวโสวัตร์ถูกทำร้ายจนตายอยู่เพียงผู้เดียว จึงชุบชีวิตให้ฟื้นขึ้นและพากลับอาศรมไปสอนวิชาคาถาอาคมให้เพื่อที่จะรีบตามนางประทุมมาละวดี ท้าวโสวัตร์ตามหานางประทุมมาละวดีจนถึงเมืองยักษ์ ท้าวโสวัตร์ใช้กลอุบายหลอกล่อจนได้นางศุภลักษณ์ธิดาของเมืองสุวรรณมณีเป็นเมีย และได้บอกเรื่องราวของตนว่ากำลังตามหานางประทุมมาละวดี เมื่อนางศุภลักษณ์ได้ฟังเช่นนั้นจึงพาท้าวโสวัตร์ไปรับม้าอาชาไนยที่หลงเข้ามาในเมือง เพื่อเป็นพาหนะในการออกตามหา ส่วนนางประทุมมาละวดีเมื่อหนีจากพรานป่ามาก็เดินป่าตามลำพังจนถึงริมฝั่งแม่น้ำใหญ่แห่งหนึ่ง มีนายสำเภาแล่นเรือมาพบเข้า เห็นนางมีรูปโฉมงดงามก็ใคร่จะได้นางเป็นเมีย จึงบังคับให้ลงเรือไปด้วย นางทำอุบายหลอกนายสำเภาและลงเรือเล็กหนีไปได้
         จนกระทั่งวันหนึ่งนางศุภลักษณ์ทรงคิดถึงท้าวโสวัตร์ก็เลยออกตามหา จนได้มาพบกับนางประทุมมาละวดีซึ่งตั้งครรภ์แก่ พอพบกันแล้วก็ถามไถ่ถึงที่ไปที่มา จนได้รู้ว่าเป็นเมียของท้าวโสวัตร์เช่นกัน จนกระทั่งนางประทุมมาละวดีปวดท้องจะคลอดลูก นางศุภลักษณ์เลยช่วยทำคลอด ปรากฏว่าเป็นลูกชาย แต่โชคร้ายของนางประทุมมาละวดีเพราะนางถูกงูกัดจนตาย ส่วนนางศุภลักษณ์เห็นประทุมมาละวดีตาย ก็ทรงร้องไห้และเดินอุ้มลูกชายของนางประทุมมาละวดีมาด้วย พระอินทร์ผู้ที่อยู่บนสวรรค์เมื่อมองลงมาเห็นประทุมมาละวดีนอนตายอยู่ก็เกิดความสงสาร จึงไปดลใจให้พระยาชมชื่นอยากเสด็จเข้าป่า พอเมื่อเสด็จมาก็เจอนางประทุมมาละวดีนอนตายอยู่จึงเกิดความสงสาร จึงเป่ามนต์จนนางฟื้นและพานางกลับเมือง พระยาชมชื่นเห็นความสวยของนางจึงรับนางเป็นลูก และเมื่อนางมาอยู่ในเมืองได้สักพักจึงขอลาพ่อเพื่อบวชชี ฝ่ายท้าวโสวัตร์ก็เดินตามหานางประทุมมาละวดีจนถึงเมืองนาคและได้ลูกของนาคเป็นเมียอีกหนึ่งคนและเดินทางตามหานางประทุมมาละวดีต่อจนถึงเมืองของพระยาชมชื่น จนได้พบกันประทุมมาละวดีที่บวชชีอยู่ จึงขอให้นางลาสิกขาแล้วไปตามหานางศุภลักษณ์และลูกชาย ฝ่ายนางศุภลักษณ์เดินทางกับลูกชายจนถึงเมืองกุมารีนางก็คลอดลูกชาย ฝ่ายเจ้าเมืองกุมารีผู้เป็นแม่เมืองก็ให้นางศุภลักษณ์อาศัยอยู่ด้วย จนกระทั่งวันหนึ่งท้าวโสวัตร์และนางประทุมมาละวดีมาตามหานางศุภลักษณ์จนพบ ทั้งสามจึงถามไถ่กัน ส่วนท้าวโสวัตร์เห็นนางกุมารีเจ้าเมืองมีความงดงามจึงพูดจาหว่านล้อม จนได้นางกุมารีในที่สุด เมื่อท้าวโสวัตร์เห็นว่าทั้งสามเป็นเมียของตนจึงพากลับเมืองพรหมกฎ และไปรับนางนาคมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
1. ที่มาและความสำคัญ
          นิทานท้าวโสวัตร์เป็นหนังสือที่จารึกด้วยอักษรลาวเวียง มีความไพเราะของสำนวน ลาวเวียงเรียกหนังสือประเภทนี้ว่า หนังสือผูก เป็นหนังสือที่อ่านขบคิดเป็นเนติได้ทั้งคติทางโลกและคติธรรม นิทานท้าว     โสวัตร์มีต้นกำเนิดมานาน จึงไม่รู้ว่าใครแต่ง ครั้งไหน เมื่อไร จึงทำให้ผู้ที่นำมาเรียบเรียงอาจนำเนื้อหามาไม่ครบถ้วน
1.1 ผู้เรียบเรียง
          ก. กิ่งแก้ว ป. และ อ. กวีวงศ์ น...
1.2 ต้นฉบับมาจาก
          หนังสือผูกของชาวลาวเวียง
1.3 แต่งปีที่         
           ไม่ปรากฏ
1.4 จัดพิมพ์
          โรงพิมพ์ บริษัท สหธรรมิก จำกัด 54/67,68,71,72 ซอย 12 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ 10600
1.5 จำหน่ายที่      
          คลังนานาธรรมจำกัด 161/6-8 ตรงข้ามตลาดสดเทศบาล 1 ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

บทที่ 2
 วิเคราะห์เนื้อหา

2.1 ชื่อเรื่อง
          -นิทานเรื่องท้าวโสวัตร์ เป็นการตั้งชื่อเรื่องโดยใช้ชื่อตัวละครเอกในเรื่องคือ โสวัตร์ ที่ชื่อโสวัตร์เพราะหมอโหรตั้งให้หมายถึงผู้ที่มีบารมีมาก
2.2 แก่นเรื่อง
          - ความพลัดพรากไม่อาจทำลายความรักลงได้
2.3 โครงเรื่อง
          - การเปิดเรื่อง
          มีเมืองหนึ่งชื่อพรหมกฏ มีท้าวพรหมทัตและนางจันทาผู้ปกครองเมือง มีพระโอรสชื่อโสวัตร์ ผู้มีความงดงาม
          - การดำเนินเรื่อง
          วันหนึ่งท้าวโสวัตร์ไปเล่นน้ำจึงพบพวงมาลัยของนางประทุมมาลวะดีที่อยากได้คู่ครอง ท้าวโสวัตร์จึงเกิดความรักจึงออกตามหา เมื่อเจอนางประทุมมาลวะดีทั้งสองก็อยู่กินกันในอาศรมของพระฤๅษี
          - ปมเรื่อง
          จนวันหนึ่งท้าวโสวัตร์ถูกพรานป่าฆ่าแล้วชิงตัวนางประทุมมาลวะดีหนีไป
          - จุดสูงสุด
          นางประทุมมาลวะเมื่อถูกพรานป่าจับตัวไป ก็คิดถึงอยากกลับไปหาสามีจึงหลอกล่อกลอุบายและฆ่าพรานป่าทิ้ง และเดินทางตามหาท้าวโสวัตร์
          - คลายปม
          ฤๅษีเห็นท้าวโสวัตร์นอนตายอยู่จึงสงสาร และชุบชีวิตท้าวโสวัตร์พร้อมสอนวิชาอาคม ให้ออกตามหานางประทุมมาลวะดี ไปจนถึงเมืองยักษ์ก็ได้ลูกสาวยักษ์เป็นเมีย ไปถึงเมืองบาดาลก็ได้ลูกสาวพญานาคเป็นเมีย ไปถึงเมืองกุมารีก็ได้นางกุมารีเป็นเมีย จากนั้นเมื่อท้าวโสวัตร์พบนางประทุมมาละวดีก็เล่าเรื่องราวของตน และให้นางกลับไปอยู่ด้วย ท้าวโสวัตร์ไปรับเมียยักษ์ เมียพญานาค เมียกุมารี กลับเมืองด้วย
          - การปิดเรื่อง
          ท้าวโสวัตร์พาเมียทั้ง 3 และลูกกลับบ้านเมืองของตน และเดินทางไปรับนางนาคมาอยู่ด้วยกันในเมืองพรหมกฎอย่างมีความสุข

2.4 ตัวละคร
          ตัวละครหลัก
          1. ท้าวโสวัตร์ เป็นโอรสของท้าวพรหมทัตกับนางจันทา กษัตริย์แห่งเมืองพรมกฎ   ลักษณะนิสัยเป็นคนเจ้าชู้ มีความเก่งกล้าสามารถด้านคาถาอาคม 
          2.ประทุมมาลวะดี ลักษณะรูปร่างงดงาม กลิ่นกายหอม ผิวพรรณผ่องใส กิริยามารยาทงดงาม นางประทุมมาลวะดีกำเนิดมาจากดอกบัวในสระของพระฤๅษี

3. นางศุภลักษณ์ มีรูปโฉมงดงาม มีจิตใจเมตตากรุณา เป็นลูกสาวยักษ์ในเมืองสุวรรณมณี             
4. นางแก้วจันทะศรี เป็นลูกสาวของพญานาค มีความงดงาม มีน้ำใจ 
5.นางกุมารี เป็นเจ้าเมืองกุมารี เป็นเมืองที่มีแต่ผู้หญิงปกครอง นางมีจิตใจช่วยเหลือ เมตตา

ตัวละครรอง
1. ท้าวพรหมทัต ผู้ปกครองเมืองพรหมกฎเป็นพ่อของท้าวโสวัตร์ มีลักษณะนิสัยชอบบำเพ็ญบุญบารมี ทำบุญทำทาน
2. นางจันทา เป็นมเหสีของท้าวพรหมทัตเป็นแม่ของท้าวโสวัตร์ มีรูปโฉมงดงาม ใจบุญ ชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก
3. พระฤๅษี เป็นผู้มีวิชาอาคาเก่งกล้า มีบารมีในการบำเพ็ญเพียรมาก 
4. พรานป่า มีลักษณะนิสัยเหี้ยมโหด หน้าตาน่ากลัว 
5. พระอินทร์ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก ชอบช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อน
6. ม้าอาชาไนย  เป็นม้าของท้าวโสวัตร์ที่เหาะได้

2.5 ภาษา
          นิทานท้าวโสวัตร์  เป็นคำกลอนโบราณภาคอีสาน  เป็นหนังสือครั้งดึกดำบรรพ์ซึ่งจารึกเป็นอักษรลาวอักษรธรรมสู่ใบลานไว้หลายชั่วอายุเป็นหนังสือที่มีโวหารสำนวนไพเราะ ผู้เป็นเจ้าของภาษาคือลาวเวียง ลาวเวียงจะเรียกหนังสือประเภทนี้ว่าหนังสือผูก สำหรับอ่านขบคิดเป็นเนติได้ทั้งทางคติโลกและคติธรรม เท่ากับเพลินจิตสมัยใหม่
6.ฉาก/ สถานที่
     1. ฉากหลัก
          1.1 ฉากในป่า
 - เป็นฉากที่ท้าวโสวัตร์เดินทางตามหานางประทุมมาลวะดี
- เป็นฉากที่ถูกพรานป่าฆ่าท้าวโสวัตร์
          1.2 ฉากในเมืองต่าง ๆ
- เมืองพรหมกฎ เป็นฉากที่ท้าวโสวัตร์กำเนิด
- เมืองสุวรรณมาลีหรือเมืองยักษ์ เป็นเมืองที่ท้าวโสวัตร์ได้นางศุภลักษณ์เป็นเมียขณะเดินทางตามหางประทุมมาลวะดี
- เมืองบาดาล - เป็นฉากที่ท้าวโสวัตร์ช่วยเหลือพ่อของนางจันทะศรีจนพ่อของนางจันทะศรีและได้นางจันทะศรีเป็นเมีย
- เมืองกุมารี เป็นฉากที่ท้าวโสวัตร์เดินตามหาประทุมมาลวะดีจนมาพบนางศุภลักษณ์ และได้นางกุมารีเจ้าเมืองเป็นเมีอีกหนึ่งคน
     2. ฉากรอง
          2.1 ฉากในอาศรม
- เป็นฉากที่นางประทุมมาลวะดีปรนิบัติดูแลพระฤๅษีและอยู่กินกับท้าวโสวัตร์
          2.2 ฉากริมแม่น้ำ
-เป็นฉากที่นางประทุมมาลวะดีเสี่ยงทายหาคู่ครอง


บทที่ ๓
ความโดดเด่นวรรณกรรม เรื่องท้าวโสวัตร์
1. ด้านเนื้อหา
          นิทานเรื่องท้าวโสวัตร์ มีเนื้อหาที่ชวนอ่าน มีการวางลำดับโครงเรื่องได้อย่างไม่สับสน เนื้อหาไม่สลับซับซ้อน เนื้อหาสนุกสนานให้น่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่องมีเนื้อหาที่แฝงข้อคิดความกตัญญูต่อบิดามารดา และการรักษาความซื่อสัตย์ต่อบุคคลที่ตัวเองรัก
2. ด้านตัวละคร 
          นิทานเรื่องท้าวโสวัตร์ตัวละครแต่ละตัวมีบทบาทที่ผู้เขียนกล่าวออกมาผ่านตัวอักษรให้เห็นถึงลักษณะของตัวละครตัวนั้น ตัวละครทุกตัวมีบทบาทสำคัญกับเรื่องและเป็นตัวละครที่ดำเนินเรื่องได้อย่างมีความสนุก มีการเปลี่ยนฉากไปเรื่อย ๆ ทำให้ผู้อ่านอยากติดตามตัวละครตัวนั้น ว่าสุดท้ายจะมีตอนจบเป็นอย่างไร
3. ด้านฉันทลักษณ์
          นิทานเรื่องท้าวโสวัตร์เป็นการแต่งแบบคำกลอนโบราณ สำนวนมีความไพเราะเสนาะโสต มีการเรียบเรียงคำและใช้ถ้อยคำได้อย่างน่าอ่าน


บทที่ ๔

การนำไปประยุกต์ใช้
1. นำมาเล่นเป็นละครเวที เรื่อง  โสวัตกุมารและนางปทุมวดี NR502
เผยแพร่เมื่อ 1 มี.ค. 2012

2. นำมาเป็นบทสวดสรภัญญะ นางประทุมวดี
อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=xBwcIAhaPSs1.ทำสื่อการสอนใน  Youtube
  เผยแพร่เมื่อ 11  ก.พ. 2010

สรุปเนื้อหาแบบอินโฟกราฟิค







นางสาวสุพรรณนิกา จันทะยา หมู่ ๓ ปี ๓ รหัสนักศึกษา ๕๗๒๑๐๔๐๖๓๑๗
 สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยกามสินธุ์

วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

วรรณกรรมท้องถิ่น เรื่อง ท้าวโสวัตร์





ภารกิจแต่งเพลงวรรณกรรม
เพลง นำหาอ้าย (โสวัตร์)
ทำนอง : รจนาลาบ้าน







วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560

วรรณกรรมท้องถิ่น

ภารกิจที่ 3/1
หาปริศนาคำทายในชุมชนตัวเอง บ้านอากาศ ต.อากาศ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร แบ่งตามหมวดคือ

สัญลักษณ์  1. สีน้ำเงิน ส่วนอรัมภบท
                   2. สีเขียว ส่วนบอกสมญา
                   3. สีฟ้า พรรณานาลักษณะ
                   4. สีม่วง จุดบอด
                   5. สีเทา ส่วนสรุป
                   6. สีแดง ส่วนเฉลย
หมวดมนุษย์ /อวัยวะ
1. แม้นหยัง ตากบ่แห้จักเทื่อ
           1             2            3
เฉลย     ลิ้น (6)

2. แม้นหยัง เฮานอนมันยืน เฮายืนมันนอน
           1                           2
เฉลย   ตีน (6)

3. แม้นหยัง ใกล้ ๆ บ่ไกล เหลียวเห็นพอขิมมิม
           1               3                        4
เฉลย หูดัง (6) หรือจมูก

4. แม้นหยัง ตัดกกบ่ตาย ตัดปลายบ่เหี่ยว
          1                4                    5
เฉลย ผม (6)

5. ขน แอะแหยะ เป๊ะกันมีแฮง แม้นหยัง
       2         3               4                1
เฉลย ขนตา (6)

หมวดเครื่องใช้
1. แม้นหยัง นั่งหย่องย่อ เบิ่งแล้วเดา เข้าบ่เข้าเอามือบายเบิ่ง 
        1                2                  3                       4                                       
เฉลย ลับพร้า   (6)

2. แม้นหยัง ซื้อมาแล้ว พาเข้าห้อง เขาแก้ผ้าออก เขาถูเขาไถ  น้ำไหลออกมา
          1            5                              3                              2                   4
เฉลย สบู่  (6)

3. แม้นหยัง อยู่ใต้หว่างขา ราคาเป็นหมื่น
         1                  2                  3
เฉลย  มอเตอร์ไซต์ (6)

4. จับขาถ่าง แล้วซุป แม้นหยัง
          2             4            1
เฉลย แว่นตา  (6)

5. ช้างสามขา พญาขึ้นนั่ง แม้นหยัง
            2                 4                  1
เฉลย เคียง (6) ที่ใช้สำหรับหุงหาอาหารของคนสมัยก่อน

หมวดพืชผักผลไม้

1. ไก่ผู้ลาย นอนตาย อยู่ข้างฮั้ว แม้นหยัง
          2             4             5                  1
เฉลย   หมากนัด (6) หรือสับปะรด


2. กกส่ำครก ใบปกดิน แม้นหยัง
          2              3             1
เฉลย หัวจิไค (6) หรือตะไคร้

3. แม้นหยัง กกส่ำขา ใบวาเดียว
           1            2             3
เฉลย กกกล้วย (6)

4. เหล็กแดง ๆ แทงลงดิน แม้นหยัง
              2               3             1
เฉลย มันแกว (6)

5. แม้นหยัง ผนตกลงมา หลังคาบ่เปียก
          1               4                 5
เฉลย ใบบัว (6)

หมวดธรรมชาติ

1. สุกเต็มดิน เก็บกินบ่ได้ แม้นหยัง
            2                4             1
เฉลย แดด (6)

2. มาบ่เห็น เย็นจั่งฮู้จัก แม้นหยัง
          4                5             1
เฉลย  ลม (6)

3. สุกเต็มเมืองฝ้า กาจับบ่ฮอด แม้นหยัง
               2                         4              1
เฉลย ดาว (6)

4. แม้นหยัง ตัดกะบ่ขาด
          1               4
เฉลย น้ำ (6)

5. แม้นหยัง โตแดง ๆ กินหญ่าแห้ง เบิ่ดทง
           1             2              4                5
เฉลย   ไพไหม้ป่า  (6)

หมวดอาหาร

1.แม้นหยัง เวลาท้วง บ่มักจ่าย
       1               4            5
เฉลย เข่าผัด (6) ข้าวผัด

2. ไข่ หยัง มักขี้ตั้ว
      2    1        4
เฉลย ไข่ต้ม (6)

3.แม้นหยัง อยู่ในศีล กินแล้วแซบ
       1               4            5
เฉลย กล้วยบวชชี (6)

4. แม้นหยัง ชื่ออยู่ประเทศอื่น แต่เกิดอยุ่ประเทศไทย
           1               4                               5
เฉลย ขนมจีน (6)

5. แม้นหยัง กินอยู่ในพื้น ชื่ออยู่เทิ่งฟ้า
           1               4                 5
เฉลย ไข่ดาว  (6)

หมวดกิจกรรมการละเล่น

1. สี หยัง พระรามมัก
     2     1       4
เฉลย สีดา (6)

2. แม้นหยัง นั่งเล่นนำกันบ่ให้ลุก มันสิได้ไปโรงบาล
          1                  4                               5
เฉลย เล่นไพ่ (6)

3. แม้นหยัง ตำรวจ  แล่นไล่ ผู้ร้าย   แล่นหนี
            1          2           3         2        3
เฉลย หมากตำรวจจับโจร (6)

4. แม้นหยัง ชื่อเป็นหมอ แต่รักษาคนไข้บ่ได้
          1               2                        4
เฉลย หมอลำ  (6)

5. แม้นหยัง โยนแล้วฮับ  ตกกะแพ้ เก็บให้หลาย จั่งชนะ
          1                 2                 3                4             5
เฉลย หมากเก็บ (6)

หมวดความเชื่อประเพณี

1. งานใต้ดัง งานหยัง
             2          1
เฉลย  งานศพ (6)

2.  แม้นหยัง บ่มีปีก กะบินได้
            1          2          3
เฉลย พระบิณฑบาต (6)

3. คนซื้อ บ่ได้ใช้ คนใช้ บ่ได้ซื้อ แม้นหยัง
        2          3            2           3         1
เฉลย โลงศพ (6)

4. เข้าแปด ออกสิบเอ็ด แม้นหยัง
         2             4                     1
เฉลย เข้าพรรษา - ออกพรรษา (6)

5. แม้นหยัง ซื้อคือสิส้ม ไปฮอดผัดม่วน
          1             2                   4
เฉลย เฮือนดอง (6) งานแต่งงาน

หมวดสัตว์

1. แม้นหยัง นั่งสูง  กว่ายืน
           1          3       4   
เฉลย  หมา (6)

2. แม้นหยัง โตอยู่นา ตาอยู่บ้าน
           1             2             3
เฉลย ปูนา (6 )

3. แม้นหยัง นอนต่ำ ขี่ทั้งเทิง
           1            2          4
เฉลย ขี้จะเดือน (6) ไส้เดือน

4. นก หยัง บ่แม้นของเฮา
      2      1              4
เฉลย นกเขา (6)

5. แม้นหยัง ยังบ่ตาย กะยังบินได้
           1           3                  2
เฉลย ผีเสื้อ (6)



นางสาวสุพรรณนิกา จันทะยา หมู่ 3 ปี 3 รหัสนักศึกษา 57210406317




วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

วิเคราะห์วรรณกรรมท้องถิ่น เรื่อง ท้าวโสวัตร์

ภารกิจที่ 1/1
วิเคราะห์วรรณกรรมท้องถิ่นเรื่อง ท้าวโสวัตร์


1.วิเคราะห์ชื่อเรื่อง
  -นิทานเรื่องท้าวโสวัตร์ เป็นการตั้งชื่อเรื่องโดยใช้ชื่อตัวละครเอกในเรื่องคือ โสวัตร์ ที่ชื่อโสวัตร์เพราะหมอโหรตั้งให้หมายถึงผู้ที่มีบารมีมาก
2.แก่นเรื่อง
 -ความรักแท้ต่อให้พลัดพรากกันไกลสักเพียงใด สักวันก็จะต้องกลับมาพบกันอยู่ดี
3.โครงเรื่อง
การเปิดเรื่อง
-มีเมืองหนึงชื่อพรหมกฏ มีท้าวพพรหมทัตและนางจันทาผู้ปกครองเมือง มีลูกชายชื่อโสวัตร์
การดำเนินเรื่อง
-วันหนึ่งท้าวโสวัตร์ไปเล่นน้ำจึงพบสาสน์ของนางประทุมมาลวะดีที่อยากได้คู่ครอง ท้าวโสวัตร์จึงเกิดความรักจึงออกตามหา
-เมื่อเจอนางประทุมมาลวะดีทั้งสองก็อยู่กินกัน จนวันหนึ่งท้าวโสวัตร์ถูกพรานป่าฆ่าแล้วชิงตัวนางประทุมมาลวะดีไป
-นางประทุมมาลวะเมื่อถูกพรานป่าจับตัวไป ก็คิดถึงอยากกลับไปหาสามีจึงฆ่าพรานป่าทิ้ง
-ฤาษีเห็นท้าวโสวัตร์นอนตายอยู่จึงสงสาร และชุบชีวิตท้าวโสวัตร์พร้อมสอนวิชาอาคม
-ท้าวโสวัตร์ตามหานางประทุมมาลวะดีไปจนถึงเมืองยักษ์ก็ได้ลูกสาวยักษ์เป็นเมีย ไปถึงเมืองบาดาลก็ได้ลูกสาวพญานาคเป็นเมีย ไปถึงเมืองกุมารีก็ได้นางกุมารีเป็นเมีย
-จากนั้นเมื่อท้าวโสวัตร์พบนางประทุมมาละวดีก็เล่าเรื่องราวของตน และให้นางกลับไปอยู่ด้วย
-ท้าวโสวัตร์ไปรับเมียยักษ์ เมียพญานาค เมียกุมารี กลับเมืองด้วย
การปิดเรื่อง
-โสวัตร์พร้อมเมียทั้ง 4 และลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
4.ตัวละคร
ท้าวโสวัตร์
เพศ:ชาย
ชาติ: มนุษย์
ฐานะ : ร่ำรวย
ลักษณะ: รูปงาม เจ้าชู้
สถานะ : ลูกเจ้าเมืองพรหมกฏ

นางสาวสุพรรณนิกา จันทะยา